ร่วมด้วยช่วยกันแชร์เป็นธรรมทาน

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

สติ สัมปชัญญะ : บทที่ ๕ ตอน ความสำคัญของการฝึกสติสัมปชัญญะในระดับครอบครัว


สติ สัมปชัญญะในชีวิตประจำวัน

ตอน

ความสำคัญของการฝึกสติสัมปชัญญะในระดับครอบครัว 

ความสำคัญของการฝึกสติสัมปชัญญะในระดับครอบครัว
          พ่อแม่ผู้ปกครองที่ใจใส ในระดับที่ตระหนักเห็นคุณประโยชน์ของการเจริญสมาธิภาวนาเพิ่มพูนสติสัมปชัญญะ ว่า ก่อให้เกิดปัญญาจากภายในมากเช่นนี้ ย่อมตัดใจสละเวลาระหว่างวัน เพื่อเจริญสมาธิภาวนาแม้เพียงชั่วโมงละ ๑ นาที โดยนั่งเจริญสมาธิภาวนาหรือนำใจมาเก็บรักษาไว้ที่กลางกายขณะที่ทำภารกิจต่าง ๆ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน แม้ขณะอยู่ในห้องน้ำเป็นประจำ ไม่ช้าพ่อแม่ผู้ปกครองท่านนั้น ย่อมเห็นได้ด้วยตนเองอีกว่า การที่ตนตั้งหน้าตั้งตาอบรมสั่งสอนลูกหลานให้รักความสะอาด จัดระเบียบสิ่งของอย่างถูกวิธีและทำทันทีนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปลูกฝังให้ลูกหลานไม่มักง่าย ซึ่งถือว่าเป็นการละชั่วขั้นต้น และเป็นการทำความดีขั้นพื้นฐานของมนุษยชาติอีกด้วยซึ่งการฝึกสติสัมปชัญญะนั้นทำได้โดย

  •  การสอนลูกให้อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทำความสะอาดร่างกายทุกซอกมุมอย่างนุ่มนวลถูกวิธี
  •  การสอนลูกให้ทำความสะอาดของเล่นและของใช้ส่วนตัวให้ถูกวิธี
  •  การสอนลูกให้จัดเก็บ เรียง ช้อน ของที่ทำความสะอาดแล้ว เป็นแถว เป็นแนว เป็นชั้นอย่างถูกวิธี
  •  การสอนลูกให้รีบล้างถ้วย จาน ช้อน ชาม ทันทีที่รับประทานอาหารเสร็จให้ถูกวิธี
  •  การสอนลูกให้กิน นอน ตื่น ขับถ่ายเป็นเวลาตั้งแต่ยังเล็ก ฯลฯ

          เมื่อฝึกอย่างนี้แล้ว จึงมั่นใจได้ว่าลูกหลานจะมีสุขภาพดี แข็งแรง เจริญเติบโตสมวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่สอนให้ลูกทำกิจวัตร ทำความสะอาด และจัดระเบียบไป ก็ชี้เหตุแสดงผล ติชมไปแบบสบาย ๆ อารมณ์ดี ลูกย่อมรู้สึกอบอุ่นใจ ใจลูกจึงไม่แล่นออกไปนอกตัว ไม่ไปติดเกม ไม่ไปติดเรื่องไร้สาระต่าง ๆ และการได้ทำความสะอาด จัดระเบียบด้วยมือของตนเอง จะเป็นเครื่องดึงดูดใจ ให้พอใจ สบายใจ มีสติดึงใจให้หยุดมั่นอยู่กลางกายตามพ่อแม่ไปโดยอัตโนมัติ
          แน่นอนว่า หากพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลาย ตื่นตัวขึ้นมาปฏิบัติกิจวัตรเก็บใจไว้กลางกาย ๓ ประการ คือ ๑) กิจวัตรสวดมนต์ ๒) กิจวัตรเจริญสมาธิภาวนา ๓) กิจวัตรเก็บรักษาใจไว้กลางกายเป็นประจำ อย่างทั่วหน้า มั่นใจได้ว่าลูกหลานทุกคนเมื่อโตขึ้น ย่อมรู้ด้วยใจว่าพ่อแม่ผู้ปกครองรักตนมากขนาดไหน พี่ก็รู้ว่าน้องรักตน น้องก็รู้ว่าพี่รักตน โดยรู้จากคำติชม ความเหนื่อย ความสนุกไปด้วยกัน ขณะทำความสะอาด จัดระเบียบ การเอาใจเขาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขา แล้วกลายเป็นความเห็นใจ ถนอมใจกัน ที่สำคัญเมื่อโตขึ้น ลูกหลานทุกคนย่อมรู้จักถนอมใจพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ยอมทำอะไรที่ไม่หมาะสม ไม่ดีงามให้พ่อแม่ผู้ปกครองช้ำใจ เกิดหิริโอตตัปปะ มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป กลัวพ่อแม่ผู้ปกครองจะเสียใจเพราะความประพฤติไม่เหมาะสมของตน เมื่อเป็นดังนี้ลูกจะเป็นคนช่างสังเกต มีความเคารพต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง มีระเบียบวินัย มีความอดทน และมีความเสียสละเพิ่มมากขึ้น
          พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ยอมสละเวลาอันมีค่าขณะประกอบอาชีพประจำวันเพียง 3 นาทีต่อชั่วโมง เจริญสมาธิภาวนาเพื่อเพิ่มพูนสติสัมปชัญญะเป็นประจำอย่างไม่ลดละ ต่อไปไม่นานท่านเหล่านั้น ย่อมเห็นความจริงน่าตระหนกประจำโลก ๔ ประการที่ถูกมองข้ามมานานแสนนาน และจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเหล่านั้น ยิ่งต้องเร่งฝึกสติเก็บใจไว้ในกายให้หยุดนิ่งมั่นคงยิ่งขึ้น และรีบเตือนสติให้ชาวโลกตระหนักถึงอันตรายเหล่านั้น เร่งรีบฝึกสติตามมาด้วย

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ

2 ความคิดเห็น:

welcome everyone to เล่าเรื่องตามกาลเวลา