ร่วมด้วยช่วยกันแชร์เป็นธรรมทาน

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตสมณะ : ชีวิตนักบวชนั้นประเสริฐสุด

ชีวิตนักบวชนั้นประเสริฐสุด

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในสามัญญผลสูตรว่า 

"ฆราวาสเป็นทางคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง" 

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตสมณะ : "สามัญญผลสูตร" ผลของการเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนา

ความหมายของสามัญญผล


บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา พระพุทธอค์ทรงตรัสบอกคุณค่าของการครองเพศสมณะในพระไตรปิฎกหมวดที่ชื่อว่า สามัญญผลสูตร ซึ่งในหนังสือพระแท้ ที่เขียนโดย หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านก็ได้แจงความหมายไว้ว่า

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กฎแห่งกรรม เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

 

ชีวิตสมณะ...กฎแห่งกรรม เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่ใครจะหลีกหนีไม่พ้นเลย ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต พุทธบริษัท ๔ ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น การกระทำทุกการกระทำอะไรก็ตามทั้งที่ลับที่แจ้ง จะมีใครเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่กฎแห่งกรรมเขาเห็นและบันทึกติดเอาไว้

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตสมณะ : เป็นพระต้องเห็นพระ

 


 ชีวิตสมณะ...เป็นพระต้องเห็นพระ

กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อประพฤติธรรม กว่าจะบำเพ็ญบารมี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ตั้งแต่บารมีขั้นธรรมดา บารมีขั้นกลาง กระทั่งบารมีขั้นสูงอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างกลางก็ ๔๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างสูงก็ ๘๐ อสงไขย แสนมหากัป กว่าจะมาได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นใครได้มาบวช ให้ปลื้มใจเถิด เรามาอยู่ ณ จุดที่ดีที่สุดแล้ว ให้ใช้วันเวลาให้ดีที่สุด

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พระ คือ ผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏ

 

ชีวิตสมณะ...พระ คือ ผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏ

พระพุทธศาสนามีความสำคัญสำหรับทุก ๆ ชีวิตในโลก มีความสำคัญมาก คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมีกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน มีเป้าหมายจะพ้นทุกข์ ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สมณะ...ผู้สงบนิ่งภายใน

สมณะ...ผู้สงบนิ่งภายใน

เรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่เราจะต้องศึกษา เมื่อศึกษาแล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา ล้วนตกอยู่ในกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น เหมือนไฟ ใครจับก็ร้อน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเจตนาจับหรือเผลอไปจับก็ร้อน หรือเอาเสี้ยนมาทิ่มเท้า เจตนาทิ่มก็เจ็บ หรือแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน ทั้งที่ไม่มีเจตนาก็เจ็บ โดนประตูหนีบมือ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ จะชาติไหนก็แล้วแต่เจ็บทั้งนั้น เช่นเดียวกันกฎแห่งกรรมไม่มีละเว้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทุกการกระทำล้วนมีผลทั้งสิ้น

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ภิกษุสามเณร...คือ ผู้ให้แสงสว่างแก่โลก

ชีวิตสมณะ....ภิกษุสามเณร คือ ผู้ให้แสงสว่างแก่โลก

 


ชีวิตในสังสารวัฏอันตรายมีภัยมาก ภัยในอบาย เป็นสัตว์นรก โลกันตร์ ในอุสสทนรก ในยมโลก อสุรกาย เปรต สัตว์เดรัจฉาน มีทุกข์มาก ๆ เลย แต่มนุษย์มองเห็นได้แค่ภูมิเดียว คือ ภูมิของสัตว์เดรัจฉาน ภูมิมนุษย์ก็มีความทุกข์ทรมานแบบมนุษย์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นชนชั้นไหนก็ตาม ล้วนแต่มีทุกข์ มีโทษ มีภัยทั้งนั้น มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีความพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก ประสบในสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาอะไรไม่ได้อย่างนั้น เป็นต้น แล้วการดำเนินชีวิตก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ มันกะพร่องกะแพร่ง ถ้าไม่รู้เรื่อง อันตราย

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก....?

 ชีวิตสมณะ...ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก...?

 



ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่เป็นต้นบุญต้นแบบ เป็นชีวิตที่ใกล้สมบูรณ์ที่สุด เพราะชีวิตจะสมบูรณ์ได้ต้องอยู่ในเพศสมณะ ชีวิตที่ยิ่งเรียบง่าย จะเป็นชีวิตที่มีความผาสุก และทรงพลัง มีความรอบรู้ ถ้าชีวิตซับซ้อนอะไรก็ดูยุ่งเหยิง วุ่นวาย อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์ทรงสละชีวิตที่ซับซ้อนมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ในที่สุดพระองค์ก็ได้เข้าถึงพระนิพพาน เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องกังวล ใจจะเป็นกลาง  สบาย  หากทุกคนมีชีวิตที่เรียบง่าย การปฏิบัติธรรมจะได้ผลดี ใจหยุดนิ่งได้ง่าย

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ

ชีวิตสมณะ..ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ



"เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ทั้งพระทั้งเณรออกบวชเพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าชีวิตมีทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง เป็นพระราชามหากษัตริย์รัชทายาท ก็มีทุกข์ ทุกข์แบบชนชั้นสูง เกิดมาเป็นชนชั้นกลาง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นกลางเกิดเป็นชนชั้นล่าง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นล่าง ไม่มีใครที่มีความสุขเลย ดูเผิน  เหมือนมีความสุข แต่จริง  แล้ว ทุกคนมีชีวิตแบบหน้าชื่นอกตรม มีทุกข์ภายในไม่รู้จะไปบอกใคร บอกใครก็อายเขา หรือเขาก็มีทุกข์เหมือนกัน เราบอกเขา เดี๋ยวเขาก็บอกเราบ้างถ้าต่างคนต่างบอกก็กลุ้มเหมือนกัน จึงต้องหน้าชื่นอกตรมกันไป

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กิจของนักบวช

ชีวิตสมณะ..กิจของนักบวช


"เราเป็นนักบวชปลดปล่อยวางแล้วจากเครื่องกังวลทั้งหลาย ไม่ต้องทำมาหากินแบบชาวโลก กิจของนักบวช คือ ศึกษาเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ให้เป็นพระแท้ เป็นพระที่สมบูรณ์ทั้งภายนอกภายใน เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง โดยย่อก็คือฝึกใจให้หยุดให้นิ่งให้เข้าถึงพระรัตนตรัย นี่เป็นกิจของนักบวช

วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สมณะ : หาใช่...ไม่ได้ทำอะไร

ชีวิตสมณะ...หาใช่...ไม่ได้ทำอะไร


เป็นพระนี่ยากนะ อยู่เฉย  เขาก็หาว่าเกียจคร้าน โดยหารู้ไม่ว่าพระท่านกำลังทำงานที่แท้จริง งานหยุดนิ่ง คือ งานที่แท้จริง ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรแต่กำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่เหมือนผนังหรือเสาเรือนอยู่เฉย  แต่จริง  กำลังทำงานแบกคาน แบกหลังคาอยู่แม้แต่หลังคาก็กำลังทำงานคอยกันแดด กันฝน กันลม หรือพื้นก็นึกว่าอยู่เฉย  แต่กำลังแบกพวกเราอยู่ ของบางสิ่งบางอย่างเห็นนิ่ง  แต่กำลังทำงานทั้งนั้น