ร่วมด้วยช่วยกันแชร์เป็นธรรมทาน

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

การเคารพสิ่งแทนตัวของพระพุทธเจ้า

           
 ดอกมะลิ และที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่มาภาพ : เพจ ภาพดี ๆ 072

          ศาสนาพุทธ มีเรื่องการกราบไหว้บูชาเป็นปกติ ไม่ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอื่นใดอย่างที่คนสมัยนี้ร่ำลือกัน ถ้าพูดกันในตัวตำราที่ยึดถือว่าเป็นหลักฐานในพระพุทธศาสนา(พระไตรปิฎก)แล้วนั้น การปกรณ์สิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้นมาให้กลายเป็นสิ่งแทนตัวบุคคลอย่างพระพุทธเจ้ามีอยู่มากมายในพระไตรปิฎก ตั้งแต่รอยเท้าไปจนถึงต้นไม้ 


        ดังมีตัวอย่างใน พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 25 ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2 พุทธวังสะ จริยาปิฎก โกรัณฑปุปผิยเถรปทานที่ 5 เรื่องมีอยู่ว่า 


"พระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้มีพระปัญญา จักษุ ได้ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ 3 รอย เพื่ออนุเคราะห์เรา เราเห็นต้นหงอนไก่ ที่ขึ้นมาจากแผ่นดิน มีดอกบานแล้ว จึงเด็ด มาพร้อมทั้งยอด บูชารอยพระบาทอันประเสริฐสุด

เพราะกรรมที่เราได้ทำไว้ดีแล้วนั้น และเพราะความตั้งเจตนาไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ไปสู่ดาวดึงสพิภพ เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือ เป็นเทวดา หรือมนุษย์ในกำเนิดนั้น ๆ เรามีผิวกายเหมือนสีดอกหงอนไก่ มีรัศมีเป็นแดนซ่านออกจากตนในกัปที่ 92 แต่กัปนี้เราได้ทำ กรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล แห่งการบูชารอยพระพุทธบาท"

ผลแห่งการบูชารอยพระพุทธบาทของพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้พระโกรัณฑปุปผิยเถระวนเวียนอยู่แต่ในสุคติโลกสวรรค์ และมนุษย์ ถึง 92 กัป และในชาติสุดท้าย ก็ได้ทำกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้น

 ภาพต้นโพธิ สิ่งแทนตัวพระพุทธเจ้า ที่มา จากเว็บ DMCTV
หรือ ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 10 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 2 ทีฆนิกาย มหาวรรค

"ดูกรอานนท์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จักมาด้วยความเชื่อว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ ก็ดี พระตถาคตทรงยังอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ก็ดี พระตถาคตเสด็จ ปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้ก็ดี ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยว จาริกไปยังเจดีย์ มีจิตเลื่อมใสแล้ว จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้า แต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ"


      ซึ่งมีความหมายโดยรวมว่า การยังจิตให้เลื่อมใสในเจดีย์อันเป็นสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง เมื่อละโลกไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
 ภาพคนเคารพต้นโพธิ ภาพมาจาก DMCTV

และใน อรรถกถา กาลิงคโพธิชาดกว่าด้วย การพยากรณ์ที่อันเป็นชัยภูมิ

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระองค์เสด็จหลีกไป พระมหาวิหารเชตวันหมดที่พึ่งอาศัย มนุษย์ทั้งหลายไม่ได้สถานที่เป็นที่บูชา ข้าพระองค์จักนำพืชจาก ต้นมหาโพธิมาปลูกที่ประตูพระเชตวัน พระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสว่า ดีแล้ว อานนท์ เธอจงปลูกเถิด เมื่อเป็นเช่นนั้น ในพระเชตวัน ก็จักเป็นดังตถาคตอยู่เป็นนิตย์"


แม้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ก็ยังเห็นด้วยกับพระอานนท์ ที่จะนำหน่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์มาปลูกในเชตวันมหาวิหาร เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชาแทนพระพุทธองค์เมื่อพระพุทธองค์ไม่อยู่

   ดังจะเห็นได้ว่า แม้แต่สิ่งที่แทนตัวพระสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้า คนในยุคนั้น ยังให้ความสำคัญและเคารพบูชามากมายถึงเพียงนี้ ถึงจะเป็นเพียงสิ่งของก็ตามแต่อานิสงส์ที่ได้รับก็มากมายทับทวี ซึ่งการสักการะบูชาและได้อานิสงส์ตามมา ก็จัดเป็นสัมมาทิฐฐิประการที่ 3 ว่าด้วยเรื่งของ การเซ่นสรวงบูชามีผลจริง และเป็นสิ่งที่มีในพระพุทธศาสนาจริง

        แต่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะต่อหน้าพระสงฆ์ กลับไร้สิ้นซึ่งความเคารพบูชา และยิ่งกว่านั้น กลับดูหมิ่นกล่าวร้ายป้ายสี โดยไร้ซึ่งความยำเกรงต่อบาปอกุศล หากการมีจิตใจเลื่อมใสเคารพบูชาในพระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์มากมายตามที่กล่าวมา การปทุษร้ายว่ากล่าวพระสงฆ์ ก็ย่อมได้รับวิบากกรรมที่ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเช่นเดียวกัน


เรียบเรียงโดย minute

แหล่งที่มาของข้อมูล
-พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ขุ.อป. (ไทย) 33/15/22
-พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ที.ม. (ไทย) 10/131/135-136
-อรรถกถา กาลิงคโพธิชาดกว่าด้วย การพยากรณ์ที่อันเป็นชัยภูมิ

7 ความคิดเห็น:

welcome everyone to เล่าเรื่องตามกาลเวลา