จริต คือ อะไร
เคยทราบไหมว่า ตัวเราเป็นคนจริตแบบไหน
และควรปฏิบัติธรรมตามจิตแบบนั้นอย่างไร
พระพุทธศาสนาแบ่งจริตหรือพื้นฐานอุปนิสัยของมนุษย์ออกเป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ และได้บอกวิธีการปฏิบัติธรรมให้เหมาะสมกับจริตต่าง ๆไว้ ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฏก กล่าวไว้ มีเรื่องราวในพุทธประวัติหลายเหตุการณ์ที่แสดงเรื่องของจริต พระพุทธองค์ทรงพิจารณาจำแนกบุคคล และเลือกกิจกรรมในการพัฒนาปัญญาให้เหมาะสมแก่คนนั้น ๆ ทำให้เกิดผลพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว บางท่านสำเร็จพระอรหันต์ตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสก็มีเยอะ แสดงให้เห็นถึงการมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการเลือกวิธีพัฒนาปัญญาเมื่อทราบว่าบุคคลนั้นมีจริตอย่างไร
ภาพการปฏิบัติธรรมของคณะภิกษุสงฆ์ ณ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ |
พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏฯ ในอรรถกถามหาสมัยสูตร ได้กล่าวถึงเหตุการณ์จริตแต่ละจริต ที่พระพุทธเจ้าทรงเมตตาเทศน์ให้เทวดาในแต่ละจริตฟัง พอจะเล่าให้ฟังคราว ๆ ดังนี้
เรื่องมีว่า ชาวเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองโกลิยะ ทะเลาะกันเรื่อง "น้ำ" คือการใช้น้ำในแม่น้ำโรหิณี จนเป็นเหตุให้พระพุทธองค์เดินทางไปห้าม และตรัสเรื่องโทษแห่งทะเลาะกันทำให้มีการผูกเวรตลอดกัป แล้วตรัสเล่าชาดก 5 เรื่อง[เรื่องต้นสะคร้อ เรื่องแผ่นดินถล่ม เรืองนางนกมูลไถ เรื่องรุกขธัมมชาดก เรื่องนกคุ่ม เสร็จแล้วจึงตรัสอัตตทัณฑสูตร ตามลำดับๆ] ให้หมู่ชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำฟัง ทำให้ยุติการทะเลาะ และอยู่กันอย่างสงบ และกษัตริย์ชาวสองพระนครก็มีการถวายพระกุมารฝั่งละ 250 องค์เข้ามาบวชเป็นพระภิกษุ 500 รูป พระองค์ทรงให้พระกุมารเหล่านั้นผนวชแล้ว ก็เสด็จไปป่าใหญ่
ในห้องจักรวาลทั้งสิ้นนั้นพึงทราบว่า ที่สูงกว่าเขาได้แก่ห้องจักรวาล
ของพรหมโลก. เล่ากันมาว่า ผู้ยืนในพรหมโลกเอาก้อนหินเท่าเรือนยอดเจ็ด
ชั้นในโลหปราสาท โยนลงล่างสี่เดือนจึงถึงแผ่นดิน. ในโอกาสใหญ่ขนาดนั้น
ได้มีเทวดาจนหาที่ว่างไม่ได้. เหมือนดอกไม้ที่คนยืนข้างล่างโยนไป หรือเหมือน
ควันไม่ได้ช่องเพื่อขึ้นไปเบื้องบน หรือเหมือนเมล็ดผักกาดที่คนยืนข้างบน โรยไปไม่ได้ช่องเพื่อลงล่างฉะนั้น.
เรียกง่าย ๆ ว่า มหกรรมใหญ่ของชาวสวรรค์ในการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แม้แต่สารถีผู้ขับรถให้จอมเทพก็ยังต้องมาเข้าเฝ้าเพื่อฟังธรรม
แน่นอนว่า เทพสวรรค์มีจริตแตกต่างกัน ตามที่พระพุทธเจ้าทรงวิเคราะห์เห็น จึงทรงเทศน์สอนบทธรรม ไปตามจริตต่าง ๆ
เพื่อการอนุเคราะห์ให้ทวยเทพจากหมื่นจักรวาลเหล่านี้ได้บรรลุธรรม จะต้องมีบุคคลเป็นผู้ถือเอาอัธยาศัยของทวยเทพ แล้ว สามารถถามปัญหาด้วยอำนาจจริตได้ ในการถามคำถามพระพุทธองค์ ทรงตรวจดูว่า มีใคร ก็ทราบว่า ไม่มีใครเลย แม้พระพุทธเจ้าที่ทรงมีในอดีต ก็ไม่มีองค์ไหนสามารถตั้งคำถามเพื่อการณ์นี้ได้ มีวิธีเดียวก็คือ "สร้างพระพุทธนิรมิต" ที่เป็นเสมือนพระองค์มาตรัสถามปัญหา เรืองราวช่วงนี้ ขอให้ไปอ่านเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกเพื่อความเข้าใจมากขึ้น เทวดาทำไมเยอะมาก ทำไมต้องเนรมิตพระพุทธนิมิตรที่เหมือนพระองค์ เหตุการณ์นี้ มีผลต่อการสร้างพระพุทธรูปในกาลต่อมา
พระธรรมกายนับล้านองค์บนพระเจดีย์ และสาธุชนสวดมนต์บูชาพระธรรมกาย ผ่าน Zoom บนจอ LED |
พระพุทธองค์ทรงตรวจดูจริตของเทวดาเหล่านั้นว่า เทวดาพวกไหนมีจริตแบบไหน เหมาะแก่การฟังธรรมเรื่องใด เพื่อเป็นที่สบายแก่พวกจริตเหล่านั้น ทรงกำหนดเทศนาว่า
- พวกเทวดาราคจริต ทรงแสดงสัมมปริพพาชนียสูตร(สูตรว่าด้วยเรื่องที่พึงเว้นโดยชอบ)
- พวกเทวดาโทสจริต จักแสดงกลหวิวาทสูตร (สูตรเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะวิวาท)
- พวกเทวดาโมหจริต จักแสดงมหาพยูหสูตร (สูตรว่าด้วยพวกใหญ่)
- พวกวิตกจริต จักแสดงจูฬพยูหสูตร (สูตรว่าด้วยพวกน้อย)
- พวกเทวดาสัทธาจริต จักแสดงตุวัฏฏกปฏิปทา (ข้อปฏิบัติของนกคุ่ม)
- พวกเทวดาพุทธจริต จักแสดงปุราเภทสูตร (สูตรว่าด้วยเรื่องแตกในอนาคต)
เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเรื่องปรากฎในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ายังพระชนชีพและจำแนกจริต ของเทพบนสวรรค์เป็นพวก ๆ ตามนิสัยที่ได้สะสมมาก่อนในอดีตชาติ เมื่อจบธรรมเทศนา ทวยเทพหนึ่งแสนโกฎิได้บรรลุอรหันต์ และบรรลุธรรมชั้นอื่นๆ อีกมากมาย เหตุการณ์นี้ทำให้พญามารได้ยกทัพมาขัดขวางทวยเทพที่จะบรรลุธรรม แต่ไม่สามารถทำได้ ด้วยอำนาจบารมีคำอธิษฐานจิตของพระพุทธองค์ ไม่ให้ทวยเทพได้เห็นรูป เสียง อะไร ใดๆ ทั้งสิ้นของพญามารที่แสดงฤทธิ์ ครั้งนั้นพญามารเดือดดาล กับผู้ที่ไม่ตกอยู่ในอำนาจของตน จึงได้กลับไป
การประชุมมหาสมัยสูตรนี้ พวกเทวดาชอบมาก ได้ตั้งใจกันฟังพระสูตรนี้
มีเรื่องเล่าว่า ในขณะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระสูตรนี้ให้ทวยเทพฟังที่ป่าใหญ่ ก็มีพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งท่องพระสูตรนี้ภายในถ้ำ ที่วัดโกฎิบรรพต เป็นพื้นที่ไกลห่างมากมายจากที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งเทศนาสูตรนี้ โดยมีเทพธิดาองค์หนึ่งที่ประตูถ้ำกากทิงวัดโกฎิบรรพต ได้ฟังธรรมด้วย และได้ยืนยันกับพระภิกษุรูปนั้นว่า พระสูตรนี้พระพุทธเจ้าทรงได้ตรัสอีกครั้งในวันเดียวเวลาเดียวกันนี้ที่ป่าใหญ่ โดย ธรรมที่ภิกษุหนุ่มท่องนี้ ตรงกับคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแสดงไม่ผิดแม้อักษรเดียว เทพธิดาก็ได้ฟังพระสูตรนี้ในวันนี้เช่นกัน[หมายถึงว่า ได้ฟังพระสูตรนี้พร้อมกันทั้งสองฝั่งในสถานที่ต่างกัน] จึงได้กล่าวคำว่า "สาธุ" ออกมาเมื่อฟังธรรมที่ภิกษุหนุ่มท่องออกมาจนจบ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ทำไมเทพธิดาจึงมายืนฟังอยู่ที่ถ้ำกากทิง วัดโกฎิบรรพต แม้ว่าอยากจะไปฟังธรรมนี้ใกล้พระพุทธเจ้า เพราะว่า ไม่มีพื้นที่ให้ยืนฟังและเป็นเทพธิดาชั้นผู้น้อย ทวยเทพชั้นชั้นผู้ใหญ่มาถึงเทวดาชั้นผู้น้อยก็ต้องถอยร่นมาเป็นลำดับๆ แต่เพราะพระพุทธเจ้ามีฤทธานุภาพมากทำให้แม้เป็นเทพธิดาศักดิ์น้อยที่ไม่อภัพก็สามารถบรรลุธรรมได้ เทพธิดาสำเร็จโสดาปัตติผลแล้วแสดงฤทธิในลำดับชั้นการบรรลุธรรมแก่พระภิกษุหนุ่ม โดย แสดงให้เห็นแค่ข้อนิ้วมือ และกล่าวว่า "จงอย่าประมาทนะ ท่านเจ้าค่ะ" ซึ่งน่าจะหมายถึง ให้รีบเร่งในการปฏิบัติธรรม อย่าประมาทในชีวิต
เล่าเรื่องในพระไตรปิฎกให้ฟังแล้ว ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า สมาธิ หรือ ในภาษาอังกฤษ ที่เขียนว่า Meditation กันก่อน
สมาธิ หมายถึง ที่ตั้งมั่นแห่งจิต, ความสำรวมใจแน่วแน่เพื่อให้จิตสงบ หรือเพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง พระพุทธศาสนาบอกไว้ 40 วิธี ในปัจจุบัน สมาธิ ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้มีการปฏิบัติหลายหลากวิธีตามแต่ที่ได้รับการถ่ายทอด ทั้งนี้ก็เพื่อความสุขในชีวิตประจำวัน อีกทั้งได้ประโยชน์ทั้งร่างกายและจิตใจ
ความหมายของคำว่า จริต
ใจมนุษย์แต่ละวันไม่อยู่นิ่งเฉย ซัดซ่ายตลอดเวลา พระพุทธเจ้าเปรียบจิตมนุษย์เหมือนลิง วิงซุกซนไปมา เปลี่ยนแปลงเร็ว, ท่องเที่ยวไปตามอารมณ์ประเภทที่จิตชอบทำ เรียกว่า "จริต" มีความหมายเช่นด้วยกับ จริย จริยา หรือ จรรยา มีความหมายจากหนังสือ คำวัด และจากพจนานุกรม[ออนไลน์] พอจะอธิบายได้ว่า
1 จริต [อ่านว่า จะ-หริด] แปลว่า จิตท่องเที่ยว หมายถึง ความประพฤติ
2 จริต [จะหริด] แปลว่า ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ
ซึ่งเป็นความประพฤติที่หนักไปทางใดทางหนึ่ง อันเป็นปรกติในกมลสันดาน
3 จริต[จะ-หริด] แปลว่า การไป ทางเดิน การทำ การประพฤติ กิริยา
พื้นเพของจิตซึ่งเกิดจากการอบรมเสพคุ้นมาเป็นเวลานานกับอารมรณ์อย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้มีจริตอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อใช้ความคิดก็จะโน้มเอียงไปตามจริตของเขา
การเสพคุ้นบ่อยๆ ในสิ่งนั้น ๆ จนเกิดความเคยชิน มีอิทธิผลส่งผลให้เกิดเป็นอุปนิสัย จนเป็นความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นฐานมาในสันดาล นั้นแสดงว่า ใจเราชอบท่องเที่ยวตามความเคยชินที่เราชอบ จึงกลายมาเป็น จริต ก็คือ "อุปนิสัยอันเป็นพื้นฐานของมนุษย์" นั่งเอง
น่าสังเกตว่า ไม่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์ หรือ เป็นเทวดา จอมเทพในชั้นสวรรค์ใดๆ ต่างก็มีจริต 6 มีพื้นฐานอุปนิสัยที่สะสมมาตามกรรมที่ตนได้กระทำ ชอบทำในสิ่งที่ตนชอบและเสพคุ้นจนเคยกลายเป็นนิสัย พระพุทธองค์จึงได้เทศนาธรรมตามจริต ทำให้ทั้งพระภิกษุ และเทวดาทุกชั้นสวรรค์ได้บรรลุธรรม ด้งนั้นในมนุษย์ทั่วโลกนี้ ก็ย่อมต้องการความสุขในชีวิต เราก็สามารถชวนเขามาทำความดีผ่าน Zoom ในกิจกรรมพื้นฐานทั่วไปที่ทำได้ของแต่ละท้องถิ่น เช่น สวดมนต์ ทำบุญถวายภัตตาหาร ทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และปฏิบัติสมาธิ อธิษฐานจิต แผ่เมตตา ตามจริตของแต่ละท่าน ช่วยกันแนะนำประโยชน์ และเชิญชวนชาวโลกมาทำบุญผ่าน Zoom ให้เยอะๆๆ ในยุคโควิด19 ที่เป็นภัยของมนุษย์ไปทั่วโลก กระแสบาปบนโลกจะได้เบาบาง มีแต่กระแสบุญที่ทุกคนช่วยกันทำความดี เมื่อทำบุญแล้ว เราก็ควรแผ่เมตตาให้กับสรรพสตว์ทั้งหลาย ทั่วโลกมีความปลอดภัยจากโรคโควิด - 19 และ ศึกสงคราม
คุณครูไม่ใหญเคยสอนไว้ว่า.......
วันหนึ่งคืนหนึ่งที่ผ่านไป
อย่าประมาท
เราต้องสร้างบุญกัน
ให้เต็มที่ทุกๆ วัน
การเป็นต้นแบบทำความดีของครอบครัว นับว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของบุตรหลาน |
สุขกามานิ ภูตานิ โย ทณฺเฑน น หึสติ
อตฺตโน สุขเมสาโน เปจฺจ โส ลภเต สุขํ
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
ไม่เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข
ขอเรียนเชิญทุกท่านทำบุญตักบาตร(ออนไลน์) ทำบุญกับวัดทั่วประเทศ หรือท่านใดไม่สะดวกไปถวายด้วยตัวเอง ส่งไปรษณีย์ไปที่ โรงครัว 71 ปีวัดพระธรรมกาย 23/2 หมู่ 7 ต.คลองสาม อ.คลอวงหลวง จ.ปทุมธานี (ตักบาตรออนไลน์อาหารแห้ง) รวมกันสร้างสังคมไทยให้มีความสุขทุกวัน สร้างกระแสความดีอยางต่อเนื่องไปทั่วประเทศและทั่วโลก พร้อม ๆกัน
อนุโมทนาบุญทุกท่าน ในจิตกุศลการทำบุญในครั้งนี้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ
- เหตุการณ์การเทศน์เรื่องจริตในพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏ อรรถกถามหาสมัยสูตรเล่มที่ 14 หน้าที่ 86 ถึงหน้าที่ 119
- ความหมายคำว่า จริต จากพจนานุกรออนไลน์
- หนังสืออิเลคทรอนิกส์พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด,วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ 2548 คำว่า "จริต" หน้า 148
- การปฏิบัติธรรมที่เหมาะสมกับจริตทั้ง 6 ขุ.มหา.(ไทย) 29/156/430
- คำสุภาษิตบาลี และแปลไทย ขุ.ธ. (บาลี) 25/20/32[online] , ขุ.ธ.(ไทย) 25/132/73[online]
- วันหนึ่งคืนหนึ่งที่ผ่านไป: คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ จากหนังสือ"บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่ง" เล่ม1 หน้าที่ 54
- หนังสือเรียนอิเลคทรอนิกส์มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย
- ภาพจากเพจการบ้าน
สาธุ ขอกราบอนุโมทนาบุญ
ตอบลบ่กราบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบขอบคุณกับบทความดีๆแบบนี้ด้วยครับ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ