ร่วมด้วยช่วยกันแชร์เป็นธรรมทาน

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ปโลกสูตร ตอนที่ 6 : เหตุแห่งการเกิดสงครามที่ทำให้มนุษย์ล้มตายกันเยอะ

ปโลกสูตร

พุทธพจน์บทนี้ หลวงพ่อมักจะนำเอ่ยอยู่บ่อยๆว่า เมื่อน้ำขุ่นๆกุ้งหอยปูปลาเต็มทะเลมองไม่เห็น เมื่อใจขุ่นๆประโยชน์ตนประโยชน์ท่านมองไม่เห็น หรือขุ่น ๆ ดีชั่วก็แยกไม่ออก บุญบาปก็แยกไม่ออก นรกสวรรค์ปฏิเสธหมด ไม่เชื่อหรอก เพราะใจขุ่น ตรงกันข้าม เมื่อน้ำใสๆกุ้งหอยปูปลาตัวเล็กตัวใหญ่   เม็ดกรวดเม็ดทรายก้อนเล็กก้อนใหญ่ นึกว่าจะมีเพชรนิลจินดาอยู่ก็ตาม อยู่ที่ก้นสระ อยู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ก้นแม่น้ำโขง หรือว่าแม่น้ำมิสซิสซิปปีอะไรก็ตามทีเถอะ หรืออยู่ก้นอ่าวไทย อยู่ก้นมหาสมุทร ขอให้น้ำใสเถอะจะเห็นหมด ทำนองเดียวกันเมื่อใจใสๆ เห็นเลยดีชั่วก็แยกออก บุญบาปก็เห็นชัด ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านก็เห็นชัด เมื่อสิ่งนี้เป็นประโยชน์ของเรา เราก็เอาไว้ สิ่งใดเป็นประโยชน์ของเขาก็เอาไป สิ่งนั้นเป็นประโยชน์ของสาธารณะ ส่วนกลางอย่าไปยุ่ง เอาไว้เป็นส่วนกลาง เมื่ออย่างนี้โลกสงบ ก็เพราะเหตุนี้ใจใสจึงมีฤทธิ์อย่างนี้ ทำให้มองเห็นความจริงของสรรพสิ่งได้


กุ้งในทะเล

เพราะฉะนั้นในพระพุทธศาสนา จึงสรุปคำสอนเอาไว้ 3 ข้อสั้นๆ 1.ละชั่ว 2.ทำดี 3.ทำใจให้ใส ละชั่วก็ตั้งแต่ตั้งใจ ไม่แตะต้องอบายมุขทั้งหลาย  แหล่งอบายมุขทั้งหลายทำให้ Covid ระบาด จนเห็นเป็นคลัสเตอร์ อบายมุขไม่แตะต้อง เราตั้งใจรักษาศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ถึง 227 ว่ากันตามกำลังศรัทธาของตัวเอง ละชั่วละด้วยศีล ทำดีตั้งแต่ให้ทาน จะให้ทานกับมนุษย์ จะทำบุญกับพระ จะบริจาคช่วยสาธารณกุศล อะไรก็ว่ากันไป 

ประการที่ 3 ทำใจให้ใสๆ ก็เพราะทำใจให้ใส พวกเราจึงตั้งใจสร้างวัดพระธรรมกายขึ้นมา อาคารแต่ละหลังเหมาะสำหรับนั่งทำสมาธิ ตั้งใจทำใจให้ใสคือสวดพระธรรมจักรกันเป็นพันๆเป็นหมื่นๆล้านจบ ก็ช่วยให้ใจใสขึ้นมาระดับหนึ่ง นั่งฟังเทศน์กัน ฟังหลวงพ่อพูดอยู่นี้ ได้ความรู้ความจริงก็ใจก็ใสขึ้นมาอีกระดับนึง นั่งสมาธิกันไป สัมมาอะระหัง พุทโธ พองหนอยุบหนออะไรก็ว่ากันไป อย่างนี้ใจก็ใสขึ้น ๆ ทำให้เห็นความจริงตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งท่านทรงค้นพบวิธีทำให้ใจใสด้วยพระองค์เอง ก็เลยทำให้จากใจใสๆของพระองค์ท่าน ทำให้ใจของพระองค์ท่านสว่างไม่มีที่สิ้นสุด สว่างอยู่ภายในเหมือนอย่างกับมีดวงอาทิตย์อยู่ในกลางท้องของพระองค์ท่าน ทำให้สว่างมองทะลุทั้งภพสาม ทั้งนรกทั้งสวรรค์ก็เห็นชัด แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาลก็เห็นชัด เห็นจากความสว่างภายในอันเกิดจากการทำใจของพระองค์ให้ผ่องใสเป็นประจำ ด้วยมรรคมีองค์ 8 ที่เรารู้จัก 

ฉะนั้นสิ่งที่พระองค์ได้รู้ได้เห็น จึงเกินกว่าที่ตามนุษย์ทั่วไปจะเห็น พราหมณ์คนนี้ อาจารย์ก็คงไม่เบาเหมือนกัน รู้จักคำว่าอเวจีมหานรก อย่างนี้ความรู้เรื่องนรกสวรรค์เขาก็พอได้ แต่ว่าจะให้มองลึกอะไรอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มองเห็นว่า เคยเกิดโรคระบาด เคยเกิดข้าวยากหมากแพง เคยเกิดสงคราม เลยทำให้มนุษย์ตายเป็นเบือ มนุษย์หายไปจากโลกนี้เยอะแยะ แต่ว่าถ้ามองออกอย่างนี้ตอนนี้ในอดีต เคยมีสงครามฆ่าฟันกันเยอะแยะ ก็พอจะเห็นมีจารึกไว้ ถ้าใครอ่านเกี่ยวกับอินเดียในเรื่องสงครามมหาภารตยุทธ เป็นต้น 

สงครามมหาภารตยุทธ

โรคระบาดก็มีเป็นครั้งคราว ประวัติศาสตร์จารึกเอาไว้ ฝนฟ้าวิปริตไม่ตกต้องตามฤดูกาล ข้าวยากหมากแพงขึ้นมาในโลกนี้ ประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศเขาก็จารึกเอาไว้ แต่ไม่มีประเทศไหน ไม่มีชนชาติไหน ไม่มีศาสดาของศาสนาไหน กล้าฟันธงลงไปว่า ที่ทำสงครามกัน ที่ข้าวยากหมากแพง ไม่มีอาหารจะกิน อดตาย และโรคระบาดฆ่าคนทั้งโลกได้ แท้จริงทั้งหมดนี้เกิดจากโลกไม่รู้จักพอ โกงกันตั้งแต่ระดับบนจนกระทั่งระดับรากหญ้า ตรงนี้ไม่มีใครพูด ประวัติศาสตร์ชาติไหนก็ไปไม่ถึง แต่ญาณทัศนะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปถึง มองทะลุเลย พอดีพราหมณ์คนนี้มาถาม ก็เลยมีเรื่องเอามาฝากพวกเรา ถ้าพราหมณ์คนนี้ไม่ช่างอยากรู้ช่างอยากเห็น ไม่มาถาม เราคงไม่ได้หลักฐานเหล่านี้เอาไว้ จึงต้องนำมาฝากพวกเราในยุคนี้ แล้วก็ขอแถมอีกนิดนึงด้วย แถมเรื่องอะไร เน้นเรื่องว่าสงครามแต่ละครั้งในโลก นี้พื้นฐานทั้งหลายเกิดมาจากความโลภ  

แม้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยกรุงศรีอยุธยาแตกมา 2 ครั้ง แตกครั้งที่ 1 แต่ครั้งที่ 1 พม่าตีแตกเลย กษัตริย์บุเรงนองของพม่ามาตีเมืองไทยแตก ประวัติศาสตร์ไทยก็บอกว่าจารึกตรงกัน ช่วงไทยพม่าจารึกตรงกันว่า ทั้งพม่าทราบข่าวว่าเมืองไทยอยุธยาได้ช้างเผือกมา กษัตริย์พม่าก็เลยขอ ขอช้างเผือก ไทยไม่ให้ ก็ต้องเกิดการรบกัน เราก็รบ ไทยสู้ไม่ได้ ก่อนเสียเอกราชไปกรุงศรีอยุธยาแตกไปเมื่อครั้งแรก พระนเรศวรมหาราชก็ทรงกอบกู้ชาติ 
 
ถ้าอ่านประวัติศาสตร์เพียงเท่านี้ ทำไมแค่ช้างเผือกตัวเดียว เผือกจริงไม่จริงก็ไม่รู้ มาแย่งกันจนทำสงครามฆ่ากันตาย ไม่รู้เท่าไหร่ เพื่อจะชิงเอาช้างตัวเดียว สมควรแก่เหตุกับผลที่จะเชื่อไหม แต่รอยจารึกเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีใครไล่ไปถึงต้นตอ  เหตุจริงๆว่าอะไรแน่ แต่จารึกประวัติศาสตร์พม่าเขาก็ว่าอย่างนี้  ขอช้างเผือกไทย แต่ไทยไม่ให้ ก็เลยยกทัพมาตีเมืองไทย ตีอยุธยาแตก ตั้งหลายเที่ยว อยุธยาก็แตก กลายเป็นว่าเสียเอกราชเพราะเห็นแก่ช้างเผือก แต่ไม่น่าเป็นเหตุเป็นผลสมควรกันเนื้อเรื่องนี้ 
 
หลวงพ่อก็เลยใช้เวลาอยู่หลายปีเหมือนกันค้นคว้าดูซิว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ได้หลักฐานอยู่หลายอย่าง แต่เสียดายเพราะมาบวชแล้ว ก็ไม่ได้เก็บเอาไว้ รู้แล้วก็ทำให้หายข้องใจ จากนั้นก็มาบวช อยากขอแถมเอาไว้สำหรับนักประวัติศาสตร์ไทยด้วย เรื่องมีนิดเดียว เมื่อยุโรปโพ้นทางทะเลมายังประเทศอินเดีย ก็มาค้าขายกับประเทศอินเดีย ค้าขายกับอินเดีย มาเอาอะไร มาเอาพวกสมุนไพร จากอินเดียก็มาเอาพวกเพชรนิลจินดาบ้าง สมุนไพรบ้าง เครื่องเทศบ้างเหล่านี้จากอินเดีย ต่อมาอินเดียก็ร่ำรวยฟู่ฟ่า ต่อมาชาวยุโรปก็เลยไปค้าขายจากอินเดียและเข้ามาที่ในอ่าวเมาะตะมะ ก็เลยมาค้าขายกับพม่าด้วย เศรษฐกิจของพม่าก็ฟู่ฟ่าขึ้นมา เลยขยายบ้านเข้ามาขยายเมืองเต็มที่เพราะเศรษฐกิจดี 
 
ถามว่าพม่าเอาสินค้าประเภทเครื่องเทศ เพชรนิลจินดาต่างๆ เครื่องเทศต่างๆ สมุนไพรต่างๆ เอาจากไหนมาเยอะแยะ ในยุคนั้นเชียงใหม่ก็เป็นประเทศหนึ่ง ก็ปรากฏว่าพม่ามาเอาสินค้าประเภทนี้จากเชียงใหม่ เอาไปขายให้พวกฝรั่ง ก็ได้หัวคิวกันไป พูดง่ายๆ การค้ายิ่งฟู่ฟ่า สินค้าหลักมาจากเวียงจันทร์จากลาว จากลาวผ่านส่งไปทางเชียงใหม่ ผ่านส่งไปก็แค่ข้ามแม่น้ำโขงมา ผ่านเชียงรายเชียงใหม่มา ไปถึงพม่า เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจของพม่าก็รุ่งเรือง จากสินค้าที่ได้จากลาว จากเชียงใหม่ 
 
ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ภาพประกอบบทความ ปโลกสูตร

 
แต่ว่าต่อมาพวกชาวยุโรปพวกนี้ ก็เข้ามาที่อยุธยา อ้อมมาเข้าทางอยุธยา ปรากฏว่าคงจะเป็นเพราะค่าหัวคิว ที่เราเก็บจากลาว จากเชียงใหม่ ถูกกว่าที่จะส่งไปให้พม่า ทั้งลาวทั้งเชียงใหม่ก็ส่งลงมาที่อยุธยา เพราะฉะนั้นฝรั่งก็มาเที่ยวอยุธยา การค้าของพม่าก็เลยซบเซาไป ประเทศที่กำลังรุ่งเรืองอยู่ด้วยเศรษฐกิจด้วยการค้า พออยู่ดีๆมาซบเซาไปใครจะยอมล่ะ เพราะฉะนั้นก็ต้องหาเรื่องกัน หาเรื่องรบกัน พอดีไทยได้ช้างเผือกมา ช้างเผือกจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ อ้างว่าช้างเผือกก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นพม่าหาเหตุขอเลย รู้อยู่ อย่างไรไทยก็ไม่ให้ พม่าเตรียมกองทัพเลย แล้วก็รบกัน อ้างว่าจะมาเอาช้างเผือก ขอดีๆไม่ให้ แต่จริงๆเศรษฐกิจของพม่าถูกกระทบ ถ้าพูดภาษาไพเราะๆ เศรษฐกิจของพม่ากำลังฟู่ฟ่า เพราะฉะนั้นทนไม่ได้ที่ไทยมาแย่งส่วนแบ่งก็ต้องรบกัน ไทยกับพม่าถ้ามองให้ลึกความไม่รู้จักพอด้วยกันทั้งนั้น โลภด้วยกันทั้งนั้น ก็เลยต้องเกิดสงคราม เหตุลึกๆก็เป็นอย่างนี้ 
 
เมื่อเทียบกับพระสูตรนี้ ฝากไว้เป็นข้อคิดเอาไว้กับพวกเรา พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในยุคนี้ ก็ต้องฝากไว้อีก ในภาวะที่ Covid ระบาดอยู่อย่างนี้ จะจบเมื่อไหร่นะไม่รู้ หลวงพ่อไม่กล้าพยากรณ์ ญาณทัสสนะยังต้องฝึกอีกเยอะ ก็อยากจะฝากเอาไว้ ก็ชีวิตของเรา จริงๆแล้วดูชีวิตพระเป็นตัวอย่าง เป็นอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้เอาข้อวัตรปฏิบัติของพระในชีวิตประจำวันเป็นตัวอย่างกับชาวโลกว่า การดำเนินชีวิตของคนจริงๆไม่สิ้นเปลืองมากหรอก เสื้อมีความจำเป็น มีความจำเป็นเพราะอะไร 
 

คนเราเกิดมามีโรคติดกายมา 6 โรค

1 โรคหนาว
2 โรคร้อน
3 โรคหิว
4 โรคกระหาย
5 โรคปวดอึ
6 โรคปวดฉี่ 

6 โรคนี้ ติดกายมาตั้งแต่เกิด ก็อยากจะฝากไว้ 6 โรคนี้เอาวัคซีนทั้งโลกมาแก้ก็ไม่หาย และเป็นจนตาย เพราะฉะนั้น โรคหนาว ร้อน หิวกระหาย อึ ฉี่ 6 โรคนี้ร้ายกว่าโควิด19 มองให้ดี โรคหนาวร้อนหิวกระหายปวดอึปวดฉี่ ร้ายแรงกว่าโควิด19 เรายังสู้มาจนกระทั่งมีอายุมาถึงวันนี้ เราสู้มาได้ยังไง ก็รู้จักประมาณ หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราแก้ไขอย่างไร เพราะหนาวร้อนเราก็แก้ด้วยอะไร ด้วยเสื้อผ้า กับบ้านช่องห้องหอมีให้อยู่ ทำไมต้องมีบ้าน ก็มันหนาวมันร้อนก็ต้องมีป้องกันไว้หนาวร้อนจากภายนอก ทำไมต้องมีเสื้อผ้า ก็มันหนาวมันร้อนมันเลยต้องมีเสื้อผ้า มีมากขนาดไหนถึงจะพอ พุทธองค์ก็ได้ให้พระเป็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่จะแก้โรคหนาวโรคร้อนเอาไว้ให้ดูในโลกนี้ ทำอย่างไร ก็ให้พระภิกษุเอาผ้าไตรมาชุดนึงมาห่ม เข้าวังชุดนี้ เข้าห้องน้ำห้องส้วมก็ชุดนี้ มีชุดเดียว เสื้อผ้าพระไม่เปลือง เพราะฉะนั้นในวาระอย่างนี้ Covid ระบาดอย่างนี้ เกี่ยวกับเสื้อผ้าก็ลด ๆ ลงมาบ้าง ค่าใช้จ่ายจะได้เบา บ้านช่องห้องหอดูพอประมาณ ใช้แบบหลักการ โดยพระอยู่กุฏิก็ไม่ได้ใหญ่อะไร ต่อพอกันแดดกันฝนได้ ถ้าเป็นคฤหัสถ์ก็ประมาณการค่าใช้จ่ายสูงหน่อย ก็ไประมัดระวังตรงนี้ โรคหนาวโรคร้อนบังคับให้ต้องมีเสื้อผ้า ต้องมีบ้านอยู่อาศัย ในภาวะโรคระบาดอย่างนี้ ก็ไปดูเรื่องการปรับเสื้อผ้า ข้าวปลา เสื้อผ้ากับที่อยู่อาศัยถ้าให้ดีๆ เอาพอประมาณ ไม่อย่างนั้นเท่าไหร่ไม่พอ ก็ยากจะผ่าน Covid ไปได้ โรคหิวกระหาย ต้องการอาหาร กระหายต้องการธาตุน้ำ พูดง่าย ๆ อาหารและเครื่องดื่มให้รู้จักประมาณ ประมาณอย่างไร อาหารพระก็เลยเหลือ 2 มื้อ ไม่เกินเพลก็ต้องหยุด เพราะมีเช้ามีเพลก็จบกัน... โปรดติดตามตอนที่7 หลวงพ่อท่านจะให้ข้อคิดแก่ฆราวาสอย่างไรในการปฏิบัติตน

 

ปโลกสูตร : เหตุการเกิดสงครามทำให้มนุษย์ล้มตาย


จากที่หลวงพ่อได้เทศนาให้ฟัง พอสรุปได้ว่า เหตุแห่งการเกิดสงครามนั้น ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากสืบค้นหาเหตุความจริง ก็ไม่พ้นเรื่อง "ความโลภ" ที่มีอยู่ในใจของมนุษย์ทุกชนทุกระดับทุกสาขาอาชีพ แม้ในประวัติศาสตร์ก็มีจารึกไว้เป็นตัวอย่างมากมาย เช่น สงครามระหว่างกรุงศรีอยุธยากับพม่า หรือเหตุการณ์ที่อินเดีย สงครามทุ่งกุรุเกษตรของมหาภารตยุทธ ที่รบกับ 14วัน14คืน ทำให้มนุษย์ล้มตายกันเป็นเบือ ก็เพราะว่าความโลภ ความไม่รู้จักพอของมนุษย์นั้นเอง 
 
ทราบกันอย่างนี้แล้วว่า เพราะความโลภทำให้มนุษย์เบียดเบียนกัน ทะเลาะกัน ฆ่ากันตาย ฝนฟ้าวิปริต ข้าวยากหมากแพง ไม่มีข้าวกิน  มีสิ่งเดียวที่ให้มนุษย์ไม่โลภมากคือ การทำความดี การละความชั่ว การทำใจให้ใส การรู้จักรักษาศีล การทำทาน เป็นต้น ช่วงนี้อยู่ในภาวะโรคระบาดทำให้มนุษย์ล้มตายทุกวัน เราก็ต้องตระหนักกันว่า อย่าโกรธ อย่าเคียดแค้น อย่าอิจฉาริษยา อย่าโมโห ทุกๆวันเหมือนสงครามชีวิต ระวังกาย วาจา ใจตนเองให้ดีๆ เราต้องมีเกาะป้องกันตนเอง นั้นคือ หมั่นทำภาวนา ทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส มีเมตตาต่อัน เพราะมีสิ่งที่น่ากลัวกว่าโรคโควิด19ซึ่งทำอย่างไร 6 โรคประจำตัวเราติดตัวเราไปจนวันตาย ก็ไม่มีวัคซีนไหนรักษาได้ นอกจากเราทำวัคซีนทางใจด้วยตัวเราเอง โดยหมั่นการทำความดี ทุก ๆประการ ร่วมกันสร้างพลังใจพลังความดีไปพร้อมกันอย่างถูกหลักวิชชา ชีวิตจะปลอดภัยและเป็นสุข
 

ดังคำพุทธพจน์ที่ว่า ..สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย.    การสั่งสมบุญนำสุขมาให้

ดั่งเช่น เรื่องลาชเทพธิดา 

หากบุคคลทำบุญ ก็ควรทำบุญนั้นบ่อย ๆ

ควรทำความพอใจในบุญนั้น

เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้

ดังนั้นขอเชิญร่วมกิจกรรมทำความดี ทุกๆวันด้วยกัน

กดเข้าห้องZoom ที่ท่านเป็นสมาชิก ตามวันเวลาที่ท่านสะดวก 
วันไหนไม่ได้ทำบุญ แผ่เมตตา วันนั้นอย่าพึ่งนอน
เช้าใดยังไม่ได้ทำความดี เช้านั้นอย่าพึ่งทานข้าว
เข้าห้อง Zoom ร่วมทำความดี ปล่อยปลา สวดมนต์ ทำภาวนา ถวายภัตตาหารร่วมกัน ฟังธรรมตามกาล ในช่วงภาวะโควิด19 ระบาด ด้วยกันนะ

ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงชนะทุกอย่าง


ลิงค์เข้าห้องZoom  ต่างๆ https://www.zoom072.net/list

URL ห้องZoom ต่าง ๆ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่อธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจน ลูกขอน้อมนำไปเตือนตนเอง และขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ

    ตอบลบ
  2. น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานและโอวาททรงคุณค่าจากหลวงพ่อ#คุณครูไม่เล็กด้วยครับ สาธุครับ

    ตอบลบ

welcome everyone to เล่าเรื่องตามกาลเวลา