ร่วมด้วยช่วยกันแชร์เป็นธรรมทาน

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564

พุทธบริษัท เข้าร่วม Zoom : ชมกิจวัตรพระธรรมทายาท เส้นทางพระผู้ปราบมารปีที่ 9 (ออนไลน์)640128

วันพระวานนี้ : พุทธบริษัททั่วโลกเข้าวัดทำบุญ ร่วมกิจกรรมกับพระภิกษุบวชใหม่ ผ่าน Zoom 

การชมกิจวัตรของพระภิกษุผู้บวชใหม่ พระธรรมทายาท ผ่านโปรแกรม Zoom ในเย็นวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564  พระธรรมทายาท มีกิจวัตรเนื่องในวันพระ และมีการจุดโคมประทีปบูชาธรรมพระผู้ปราบมาร ที่โบสถ์พระไตรปิฏก โดย พระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทฺธิจินฺตโก เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นประธานในพิธี ในการนำคณะสงฆ์จุดประทีป หลังจากจุดประทีปเสร็จแล้ว ท่านเจ้าอาวาสก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์เรื่องราวชีวิตพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ที่ท่านได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในภาวะปัจจุบันนี้สถานการณ์ติดไวรัสโควิด ประชาชนทั่วโลกติดโควิด19 ทะลุกว่าร้อยล้านแล้ว ท่านเตือนว่า ให้สาธุชนทุกคนทำตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข อย่า!!ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น จะมาวัดก็ควรใช้แบบออนไลน์ zoom เข้ามาร่วมงาน มากันเยอะๆ จะได้เป็นกำลังใจซึ่งกันในการทำความดี
 

บทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องการทบทวนโอวาทเกี่ยวกับพระผู้ปราบมาร จากท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  มาถ่ายทอดสู่กันฟัง ดังว่า
 
ทบทวนโอวาทน้อมรำลึกถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญวันที่ 28 มกราคม 2564 วัดปากน้ำภาษีเจริญสถานที่ทำวิชาสู้รบปรบมือกับพญามาร พระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมารมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านก็เป็นทั้งครูและนักเรียน 
 
เป็นครู คือสอนสมาธิไปด้วย ในที่สุดก็มีผู้บรรลุธรรม เข้าถึงธรรมกายเพิ่มขึ้นอีกมาก

นักเรียน คือท่านศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายต่อไป ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องหน้าที่ของท่านและทีมงานของท่าน ที่ท่านจะต้องลงมาเกิด มาทำหน้าที่สำคัญจะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมที่จะไปขจัดต้นตอของกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป

 
ตรวจตรามองกันไปเรื่อยๆ ศึกษากันไปเรื่อย โดยเข้ากลางของกลางไปตามลำดับ ในที่สุดก็รวบรวมธาตุธรรมพิเศษที่มาเกิดเพื่อการนี้ ที่จะศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกาย รวมกันได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ตั้งแต่ท่านอายุได้ 47 ปี ก็เริ่มที่จะทำสงครามภายในซึ่งเป็นการทำสงครามที่แท้จริง เป็นสงครามที่ไม่ได้ใช้ศาสตราอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่มีการพลัดพราก มีแต่ความสุขและความบันเทิงทุกขั้นตอนของการทำสงครามที่แท้จริงกับกิเลสอาสวะและพญามาร ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อยไป โดยแบ่งออกเป็น 2 กะ กลางวัน 6 ชั่วโมง กลางคืน 6 ชั่วโมงค้นคว้ากันเรื่อยไป
 
จนกระทั่งถึงยุคที่คุณยายอาจารย์ของเราได้มีส่วนอย่างสำคัญ ในการได้เข้าสู่สมรภูมิรบที่แท้จริง รบกันด้วยธรรรมาวุธ ด้วยธรรมกาย ไม่มีการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น นอกจากบุญบันเทิง มีความสุขทุกขั้นตอนเรื่อยไป กระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดการรบราฆ่าฟันกันไปทั่วโลก ท่านก็ศึกษาค้นคว้ากันไปด้วย แก้ไขทุกข์มนุษย์ไปด้วย ศึกษาไป ค้นคว้าไป แก้ไขไม่ให้มนุษย์รบกันเอง 
 
 

เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต ถูกเขาจับปั่นเหมือนจิ้งหรีดให้กัดกัน โดยเอากิเลสอาสวะมาบังคับ แล้วก็บดบังไม่ให้รู้เป้าหมายในชีวิตของตัว ไม่ให้รู้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน ไม่ให้รู้เรื่องราวว่าจะต้องไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยกัน ให้รบกันไปเอง เป็นอย่างนั้น ท่านก็พยายามแก้ไขกันเรื่อยไป โดยทำวิชชาทั้งกลางวันและกลางคืน มีทีมงานซึ่งเป็นธาตุธรรมพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งอุบาสิกาและพระเณร ได้ประกอบวิชชาธรรมกายไปด้วยกัน

คุณยายอาจารย์ของเราท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านเป็นหัวหน้าเวรขาดรู้ ซึ่งจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องเหตุผลที่จะตอบกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่ซักถาม ตามหลักวิชชาทั้งหยาบและละเอียด หยาบก็ขอถามเกี่ยวกับเรื่องสงครามโลก ละเอียดก็สงครามภายใน ก็ค่อยๆแก้ไขกันไป จนกระทั่งสงครามโลกสงบลง คุณยายของเราได้รับการยกย่องจากปากคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า “เป็นหนึ่งไม่มีสอง” คือสู้อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย ไปสู่ที่สุดอย่างเดียวเท่านั้น พูดครั้งเดียวมีพยาน หลักฐานหลายท่านรับรองในคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่าน ซึ่งคุณยายท่านก็รับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ

 
การศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุทธิ์และไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้ง ไม่เกาะเกี่ยวกับเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ ที่จะไปรู้เรื่องราวสิ่งเหล่านี้ได้เพราะเรื่องราวเหล่านี้ มันเหลือวิสัย ยากต่อการเข้าใจ ด้วยวิธีการให้เหตุผลธรรมดา หรือจะไปหาหลักฐานอ้างอิง หรือจะใช้ความนึกคิดด้นเดาเอาเองนะ ไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากนักการศึกษาพระพุทธศาสนา หรือปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาได้ศึกษาค้นคว้า เหมือนใบไม้ในป่าประดู่ลาย

ซึ่งสมัยหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านกอบใบไม้มากำมือหนึ่ง 
ถามพระภิกษุว่า ...
“ใบไม้ในกำมือกับใบไม้ในป่าประดู่ ส่วนไหนมีมากกว่ากัน”
พระภิกษุตอบว่า... ใบไม้ในป่าประดู่มีมากกว่าใบไม้ในกำมือ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ท่านก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า สัพพัญญุตญาณของเรานั้นรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งปวง โดยไม่มีขอบเขตจำกัด แต่ว่าสิ่งที่เราเอามาสอนเธอนี่เพียงนิดเดียว เพื่อเป็นทางหลุดทางพ้นจากกิเลสอาสวะจากภพทั้ง 3 จากกฎแห่งกรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น วิชชาธรรมกายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้ให้โอกาสกับตนเอง ในการศึกษาธรรมปฏิบัติให้มันลึกซึ้งขึ้นไป ก็ยากต่อการที่จะได้เข้าใจ แม้แต่นักวิชาการทางพระพุทธศาสนาในระดับโลกเมื่อไม่ได้ให้โอกาสตัวเองศึกษา ก็ยากที่จะเข้าใจสิ่งนี้ได้ 
 
เพราะฉะนั้นคำว่า “วิชชาธรรมกาย” จึงรู้กันอยู่แต่ในขอบเขตจำกัด สำหรับธาตุธรรมพิเศษ คือรู้อยู่ในโรงงานทำวิชชาเท่านั้น นอกนั้นก็รู้แต่เพียงว่า ธรรมกายคือพระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึก ไปนรกได้ ไปสวรรค์ได้ แม้ไปพระนิพพานก็ยังได้ ไปนรกสวรรค์ ไปจับมือถือแขนสัตว์นรก หรือชาวสวรรค์ได้ ไปพูดจาโต้ตอบกันได้ ญาติ บิดามารดา ปู่ย่าตายายไปตกนรก พระธรรมกายไปช่วยได้ ด้วยอานุภาพพระธรรมกายที่ไม่มีประมาณ นี่คือสิ่งที่ทุกคนที่อยู่นอกโรงงานทำวิชชาเข้าใจได้เพียงแค่นี้เท่านั้น แต่ลึกซึ้งไปกว่านั้นน่ะ ก็รู้กันในเขตจำกัดนี้เอง

วิชชาธรรมกายนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเอาชนะพญามาร สามารถที่จะทำให้สันติสุขและสันติภาพของโลกที่แท้จริงบังเกิดขึ้น นอกเหนือจากนี้แล้ว สันติภาพของโลกและสันติสุขที่แท้จริงของโลก ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าด้วยที่การใด ๆ ทั้งสิ้น


 
สุดท้ายนี้ ด้วยบุญที่ทุกคนได้มาพร้อมใจกันประกาศคุณบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมารธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมารด้วยความเคารพเลื่อมใส ก็จะทำให้เราได้รับอานิสงส์ทำให้เกิดในตระกูลสูง จะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือ กราบไหว้ จะเป็นที่ยกย่องของมหาชนเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย กิตติศัพท์สำคัญความงามของเราทั้งหลาย จะฟุ้งกระจรกระจายไปทั่ว เราจะได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย จะเป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น เป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล จะได้มนุษย์สมบัติอันเลิศ พร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ และมีสมบัติตักไม่พร่อง สมบัติอัศจรรย์ในภพชาติที่มาบังเกิด เมื่อมีทรัพย์แล้วก็จะไม่ตระหนี่ จะมีโอกาสได้ทำบุญในบุญเขตอันเยี่ยมกับทักขินัยบุคคล จะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไปและก็จะได้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยเร็วพลัน …
สาธุ  สาธุ สาธุ
 
 ก่อนจบเรื่องเล่าบทความนี้ ขอเชิญท่านผู้มีบุญ
เข้าร่วมอนุโมทนาบุญกิจวัตรพระธรรมทายาท
ตามตารางบุญ และเวลาที่แจ้งไว้

อย่าลืม!!ช่วยกันทำหน้าที่กัลยาณมิตร
ชวนคนรอบตัว ทั้งคนที่เรารัก และที่รู้จัก
ญาติ เพื่อนรุ่นพี่ เพื่อนรุ่นน้อง อาจารย์ที่เราเคารพ
คนทั่วโลกผ่านทางโลกโซเซียล มาร่วมอนุโมทนาบุญ
ซึ่งรายการถ่ายทอด ทีหลายช่อง หลายเรื่องราวดีๆ


สำหรับห้องสาธุชนคนทั่วไป
จอยเข้าห้องนี้ 
Meeting id : 8928398924
Passcode : 072

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564

พระภิกษุผู้บวชใหม่ : 3 ข้อหลักธรรมที่เชื่อว่าปฏิบัติไม่ผิด ผู้ปฏิบัติมีชีวิตรุ่งเรือง

การฝึกอบรมพระภิกษุผู้บวชใหม่ของโครงการพระธรรมทายาทปี2563 เพื่อบูชาธรรมพระผู้ปราบมารปีที่ 9 ในธรรมยาตราปี 2564 โดยผ่านกิจวัตรประจำวัน และยังได้ถ่ายทอดการฝึกฝนข้อวัตรปฏิบัติแต่ละวันผ่าน Zoom ให้ญาติโยมทั้งใน และต่างประเทศ ได้เห็นกิจวัตรต่าง ๆ และได้ร่วมอนุโมทนาบุญ กับคณะภิกษุที่ได้ตั้งใจขัดเกลาอุปนิสัย ประพฤติตนตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ทรงกำหนดกิจวัตรประจำวันไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน

นอกจากให้มีการดำรงชีพด้วยการถือนิสสัย 4 (ย้อนกลับไปอ่านบทความเดิม) แล้ว ซึ่งเป็นการฝึกให้รู้จักประมาณในการใช้สอยในชีวิตประจำวันตามพื้นฐานปัจจัยสี่ของมนุษย์ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค เพื่อให้ผู้บวชจะได้ไม่กังวลและมีห่วงหรือภาระให้ต้องดูแลมากในสมบัติที่ตนมี ชีวิตจะได้ไม่มีปัญหาหรือเป็นทุกข์ในชีวิตประจำวัน มีเวลาในการบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติกิจวัตรของเพศบรรพชิต ได้อย่างแท้จริง มุ่งสู่การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ 8 ได้อย่างเต็มกำลัง พระองค์ทรงได้ให้พระภิกษุผู้บวชใหม่ได้มีหลักธรรมปฏิบัติต่อเนื่องยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อการพัฒนากาย วาจา ใจ สติปัญญา เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บุคลิกงดงาม น่าเลื่อมใส เป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาแก่ผู้ที่พบเห็น จนสามารถเป็นต้นแบบแห่งความประพฤติที่ดีงาม ให้ทุก ๆ สังคมสามารถนำแบบแผนไปใช้ในการปฏิบัติในการดำรงชีวิตประจำวันอย่างเป็นสุข

 ปฏิบัติ 3 ข้อหลักธรรมทำให้ผู้ปฏิบัติเป็นสุข และชีวิตรุ่งเรือง

 เมื่อได้ปฏิบัติตนเองอย่างสม่ำเสมอในเรื่องหลักธรรมมรรคมีองค์แปด พระพุทธองค์ก็ยังทรงให้หลักธรรมปฏิบัติมรรคมีองค์แปด อย่างจริงจังและต่อเนื่อง หลักธรรมนั้น คือ การปฏิบัติ "อปัณณกธรรม" ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่ไม่ว่าจะทำที่ไหน ทำเมื่อไร ทำเวลาใด ทำกับใคร ไม่มีทางผิด ไม่มีทางเสื่อมเสีย มีแต่จะดีท่าเดียว มีด้วยกัน 3 อย่างคือ

1 อินทรียสังวร(การสำรวมอินทรีย์)

อินทรีย์ หมายถึง ความเป็นใหญ่ในทางที่จะรับรู้ เช่น ความเป็นใหญ่การรับรู้รส ก็คือ ลิ้น ความเป็นใหญ่การรับรู้ภาพ คือ ตา เป็นต้น เราจึงต้องสำรวมระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของตนเองให้ดี ๆ โดยมีสติ มีความระลึกถึงสิ่งที่ทำ จำคำที่พูด มาเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจ เฝ้าระวังตามช่องทางอินทรีย์ต่างๆ "สติ"จึงต้องมีกำลังมากพอสมควรที่จะต้องป้องกัน

ความหมายข้อนี้ก็คือ การสำรวมอินทรีย์ หมายถึงการรู้จักระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้เผลอไปดู ไปฟัง ไปดม ไปลิ้มรส ไปสัมผัส แตะต้อง ลุ่มหลงในสิ่งที่ยั่วยวนเย้าใจให้เกิดกิเลส บังคับใจให้เกิดทุกข์ เพราะอยากได้ หรือ ไม่ได้สิ่งของนั้น ๆ เนื่องเพราะตัณหาเกิดขึ้นในใจ หากภิกษุใหม่ได้สำรวมอินทรีย์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ใจเป็นปกติ ไม่ดิ้นรนซัดส่าย มีความสงบ ไม่ฟุ้งซ่านไปกับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมณ์ต่าง ๆ ไม่หลงใหลไปกับสิ่งยั่วยวนใจ มีใจสงบเมื่อปฏิบัติธรรม และสามารถบรรลุธรรมได้เร็ว

2. โภชเน มัตตัญญุตา

คือ การรู้ประมาณในการบริโภคอาหาร หมายถึง ภิกษุใหม่รู้ว่าการบริโภคอาหารก็เพียงเพื่อประทังชีวิตให้รอดไปได้ในแต่ละวัน เพื่อเติมพลังงานให้กับร่างกายที่ประกอบไปด้วยธาตุสี่ เป็นการบำรุงร่างกาย ดับความหิวกระหาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ รับอาหารด้วยปริมาณที่พอเหมาะในการบำรุงร่างกาย ไม่มักง่าย และเห็นแก่ตัว กินอาหารมากเกินความต้องการ เป็นผู้อยู่ง่ายด้วยอาหาร หากภิกษุใหม่ปฏิบัติได้อย่างเป็นปกติ ผลก็จะส่งให้ดีต่อทางร่างกาย และจิตใจ เมื่อร่างกายแข็งแรงโรคภัยไม่เบียดเบียน ใจย่อมเป็นสุข ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริญ” ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่เป็นภาระของชาวโลก มุ่งไปสู่การปฏิบัติธรรม และเจริญภาวนาให้จิตใจสงบสุข และสามารถบรรลุธรรมได้ง่าย และเร็ว

3. ชาคริยานุโยค

คือ ประกอบความเพียรเครื่องตื่นอยู่ หมายถึงการปฏิบัติเจริญภาวนา ทำสมาธิ ด้วยอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ตลอดวัน เพื่อมุ่งไปสู่การกำจัดกิเลส ซึ่งการที่ภิกษุใหม่จะประกอบความเพียรได้ทุกอิริยาบถ ก็เพราะปฏิบัติสองข้อเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้วให้เป็นปกติ คือ หมายถึงให้เป็นนิสัย เรียกว่าเป็นผู้ประกอบความเพียรอยู่ตลอดเวลา และได้ทุกอิริยาบถ ผลดีคือ จะช่วยทำให้การปฏิบัติมรรคมีองค์แปดสมบูรณ์ครบถ้วนนั้นเอง

ทั้ง 3 ข้อนี้เป็นการประกอบตนอยู่ในธรรมเป็นเครื่องตื่น 

นี้คือลักษณะของมัชฌิมาปฏิปทาจริง ๆ ซึ่งก็คือ ทางสายกลาง

 
กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องราวของการพัฒนากาย วาจา ใจ เริ่มการดูแลเอาใจใส่สุขภาพตนเอง การฝึกปฏิบัติ เรื่องราวของการใช้ชีวิตในการกิน การอยู่ การนอน ควรทำให้เป็นนิสัย ก็จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ฝึก และคนอื่น

ฉะนั้น เมื่อภิกษุสงฆ์ใหม่ปฏิบัติมรรคมีองค์แปดเป็นประจำทุกวันอย่างครบถ้วน ถือนิสสัยสี่ และต้องปฏิบัติอปัณณกธรรม3 อย่าง ต่อเนื่องในทุกอิริยาบถ ตลอดวัน ตลอดคืน ก็สามารถ บรรลุธรรมเบื้องต้น ก้าวสู่การปฏิบัติขั้นสูงอย่างต่อเนื่องและสามารถปฏิบัติอริยสัจ 4 หลุดพ้นความทุกข์ เกิดธรรมจักษุ เกิดปัญญา เกิดญาณ ในการพิจารณาสิ่งทั้งปวงตามความเป็นจริง พบสุข จิตสงบ มีสติในการดำรงชีวิต เป็นต้นแบบที่ดี เป็นแบบอย่างของคนดี ให้แก่สังคม

กิจวัตรพระธรรมยาตราในปี 2564 ปีที่ 9 นี้ กำลังถ่ายทอดการฝึกของพระภิกษุผู้บวชใหม่ ที่พัฒนาตนเองเป็นหมู่คณะ ได้ขัดกลาตนเอง และประพฤติตน จนเป็นนิสัย เป็นปกติในการดำรงชีวิตในยุคโควิด19 ซึ่งวัดพระธรรมกายและทีมงานอบรมพระธรรมทายาท ได้กำหนดตารางอบรมเพื่อปฏิบัติตนไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุขที่กำหนดไว้ในเรื่องความเป็นอยู่ร่วมกัน เว้นระยะห่าง การคัดกรองคนเข้าพื้นที่ การล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัย การกินอาหารก็ต้องแยกภาชนะส่วนตัว และเน้นเรื่องความสะอาดเป็นหลักใหญ่ ดูแลตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ และอยู่ร่วมกันกับหมู่คณะ ตามคำแนะนำพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง ซึ่งพระธรรมทายาทก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขตลอดเวลาในภาวะโควิด-19 ระบาด ไร้โรคร้าย ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย พร้อมใจกันใช้ชีวิตอย่างมีวินัยตามคำสอน ทำให้พระภิกษุสงฆ์ มีสุขภาพกายแข็งแรง มีสุขภาพใจเป็นสุขตลอดเวลา

กลุ่มชุมชนใดต้องการดำรงชีวิตประจำวันเป็นปกติในช่วง New Normal ก็สามารถนำวิธีการไปใช้ในสังคมทั่วนั้นๆได้ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามหลักการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ตามแบบแผนการฝึกตนในทางสายกลาง สามารถดูแลร่างกายและจิตใจควบคู่กันไปด้วย ชีวิตก็เป็นสุขแล้ว

 

 

ขอเชิญทุกท่านเข้ารับชมกิจวัตรพระธรรมยาตรา ผ่าน Zoom

โดย ติดตั้งZoom ลงในระบบมือถือ

เข้าลิงค์นี้ เพื่อเลือกห้องที่ท่านต้องการเข้าร่วม 

dmc.tv/2564/rooms

สำหรับห้องญาติโยมใหม่ๆ ชมได้ที่
 
ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/1
dmc.tv/2564/1/1 [ Go URL ] 
 
ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/2
dmc.tv/2564/1/2 [ Go URL ]

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล และรูปภาพ


วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564

วันนี้วันพระ : การฝึกตนของพระภิกษุผู้บวชใหม่

4 ข้อ ในการฝึกตนของพระภิกษุผู้บวชใหม่

ในการดำเนินชีวิตพระสงฆ์ในแต่ละวัน นั้น พระพุทธเจ้า ทรงให้ทำกิจวัตร ซึ่งเป็นเครื่องอาศัยของบรรพชิต หรือ สิ่งที่บรรพชิตพึงปฏิบัติ เพื่อการยังชีพ คือ นิสสัย4 ประกอบด้วย

นิสสัยที่ 1. เที่ยวบิณฑบาต 

คือ ให้ภิกษุเลี้ยงชีพด้วยการบิณฑบาต โดยอาศัยชาวบ้านเป็นอยู่ โดยปัจจัยที่ได้จากการบิณฑบาตนั้นถือว่าเป็นปัจจัยที่บริสุทธิ์

นิสสัยที่ 2. นุ่งห่มผ้าบังสกุล 

คือผ้านุ่งห่มที่หาเจ้าของมิได้ เช่น ผ้าตามกองขยะที่ชาวบ้านทิ้งไว้ หรือ ผ้าห่อศพ ภิกษุในสมัยพุทธกาลจเก็บมาย้อมเย็บเป็นจีวร สบง ไว้นุ่งห่ม

นิสสัยที่ 3. อยู่โคนไม้ 

เนื่องจากสมัยพุทธกาล ผู้ที่บวชเป็นบรรพชิต เมื่อทิ้งบ้านเรือนมาออกบวช ก็มักอาศัยอยู่ในป่า แม้พระพุทธองค์ก็มิได้ยกเว้น ต่อมาภายหลัง จึงมีผู้ศรัทธาสร้างกุฏิถวาย

นิสสัยที่ 4. ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า 

คือ ฉันยารักษาโรคด้วยปัสสาวะ 

การฝึกอบรมภิกษุสงฆ์ทั้ง 4 ข้อนี้ ถือว่าเป็นการฝึกให้รู้จักประมาณในการใช้สอยในชีวิตประจำวันตามพื้นฐานปัจจัยสี่ของมนุษย์ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเรียนรู้ศึกษา ฝึกฝนคุณค่าของการปฏิบัติชีวิตของผู้ออกจากเรือนมาบวช จะต้องฝึกเป็นผู้ไม่มีสมบัติมาก จะได้ไม่มีห่วงกังวล หรือภาระให้ต้องเลี้ยงดูแลมาก ชีวิตจะได้ไม่มีปัญหา หรือ เป็นทุกข์ในชีวิตประจำวัน มีเวลาในการปฏิบัติธรรม และปฏิบัติกิจของเพศบรรพชิตที่แท้จริง มุ่งสู่การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ 8 ได้อย่างเต็มกำลัง

โครงการบรรพชาอุปสมบทบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ปี 2563

ขณะนี้ พระภิกษุผู้บวชใหม่

กำลังฝึนฝน อบรมบำเพ็ญตบะทุก ๆ วันโดยการทำกิจวัตรปฏิบัติธรรม

และธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมารปีที่ 9 ในปี 2564

ฝึกฝนตนเองเป็นหมู่คณะ

เป็น "พระแท้" เป็นต้นแบบของภิกษุสงฆ์ 

ตามอย่างพระพุทธเจ้าและพระสาวก

โดยมี หลวงพ่อทัตตชีโว เทศน์สอนหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

พระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง คอยดูแลเอาใจใส่ ต่อการฝึกฝน

มีความศรัทธา เชื่อแและเคารพ ทำตามคำแนะนำของเหล่าพระอาจารย์

โดยมีพระอาจารย์พี่เลี้ยง ถ่ายทอดคำสอน และฝึกปฏิบัติให้เห็น

ทำให้พระทุกรูป ตั้งใจฝึกฝนตนเอง


หลวงพ่อทัตตชีโว....

ท่านได้สรุปบทฝึกตน ให้แก่ พระ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา...

ในเสนาสนสูตรกล่าวไว้ว่า

คุณสมบัติผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกสงฆ์ นั้น

"คนที่ฝึกได้" ต้องมีคุณสมบัติ 5 ข้อ (องฺ.ทสก.(ไทย) 24/11/17)

1 มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในพระรัตนตรัย

2 ไม่ขี้โรค หมายถึง สุขภาพแข็งแรง

3 ไม่เป็นคนเหลี่ยมจัด 

4 มีความอดทน มีธาตุทรหด รักการฝึกตน

5 มีปัญญา

บทฝึกนี้..มีในพระพุทธศาสนา 

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจน

พระสารีบุตรประพฤติปฏิบัติให้เห็นชัด

คุณยายก็มอบเป็นมรดกธรรมไว้ให้เห็นชัดเจน

หลวงพ่อธัมมชโย ก็เขียนไว้ให้ดู คือ

"สะอาด กับ ระเบียบ"

คำสอนหลวงพ่อธัมมชโย เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า

"หลวงพ่ออยากให้ลูก ๆ ทุกคน ถือโอกาสฝึกตัว

โดย ให้ผู้ที่มาใช้ห้องน้ำต่อจากเรา รู้สึกเหมือนคนแรกเสมอ

คือ อ่างน้ำและอุปกรณ์ สะอาดและแห้ง"

นี้คือพื้นฐานในการฝึกตน หากเราอยากได้คนมาทำงานด้วย

ก็ต้องรู้จักฝึกคนให้เป็นตามคำสอนพระพุทธเจ้า 

ขัดเกลานิสัย ประพฤติปฏิบัติตน 

ตาม "อริยวินัย" เพื่อเป็นพระแท้

เพราะเวลาทำงาน "คนเดียวทำไม่สำเร็จ เราต้องทำเป็นทีม" 

 


คนอย่างไรที่เราต้องการ ซึ่งได้แก่

  1. มีความรับผิดชอบ
  2. ซื่อสัตย์ มีสัจจะ
  3. ฉลาด
  4. รักธรรมะ
  5. ไม่เห็นแก่ตัว
  6. รักสะอาด รักความเป็นระเบียบ
  7. ไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง
  8. เป็นมิตรแท้
  9. ไม่พูดจาให้แตกแยก
  10. ทำงานเป็นทีมกับคนอื่นได้
  11. รักหมู่คณะ

ฯลฯ....

ดังนั้น เมื่อถึงวันพระ สาธุชน ก็ควรเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม เหมือนสมัยก่อน ที่ชาวพุทธได้ปฏิบัติตนสม่ำเสมอ ทำตามประเพณี รักษาวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวพุทธ ดำรงชีวิตประจำวันด้วยหลักธรรมคำสอน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นในสังคม สังคมก็สงบสุข

ปัจจุบัน แม้ว่ามีสภาวะโควิด 19 ระบาดไปทั่วโลก เราชาวพุทธ ก็สามารถเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม รักษาประเพณีวันพระนี้ไว้ โดย ร่วมอนุโมทนาบุญ และรักษาประเพณีวันพระไว้ ผ่าน Zoom แอพพิเคชั่น ที่สามารถให้ทุกคนได้พบปะ ร่วมงานบุญด้วยกัน ตัวหยุดอยู่บ้าน ใช้ Zoom เข้าร่วมสังสรรค์งานบุญด้วยกัน 

ถึงเวลาแล้ว ที่พุทธบริษัทสี่ต้องรวมใจเป็นหนึ่งผ่าน Zoom

โดย ติดตั้งZoom ลงในระบบมือถือ

เข้าลิงค์นี้ เพื่อเลือกห้องที่ท่านต้องการเข้าร่วม 

dmc.tv/2564/rooms

สำหรับห้องญาติโยมใหม่ๆ ชมได้ที่
 
ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/1
dmc.tv/2564/1/1 [ Go URL ] 
 
ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/2
dmc.tv/2564/1/2 [ Go URL ]



ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูลและรูปภาพ

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2564

4 วิธีที่ทำให้ชีวิตมีความสุขความสบายตลอดวัน

คำพูดที่ว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" นี้สำคัญ ชีวิตมนุษย์แต่ละคน ในแต่ละวัน ต้องการความสุขความสบาย แต่ช่วงนี้ โควิด19 มาเยือนทุกชีวิต ทุกชีวิตต้องหยุดตัวเพื่ออยู่ที่บ้าน ทำอะไรก็ต้องระวังในภาวะไวรัสโควิด19 ระบาดไปทั่วโลก เวลาแค่ 1 วัน 1 เดือน อาจจะไม่มีอะไร แต่หากนานๆ มากขึ้นอาจจะเกิดผลกระทบต่อบริบทของการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ย่อมต้องการปฏิสัมพันธ์อยู่ร่วมกันเป็นสังคมมนุษย์

 


ความต้องการพื้นฐานมนุษย์นั้น ต้องการชีวิตที่อยู่รอด 

และมีความสุขทั้งกายและใจ และอยู่ร่วมกันเป็นสังคม 

อริสโตเติล นักปราญช์ชาวกรีก กล่าวไว้ว่า...

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่ต้องมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่น ติดต่อสัมพันธ์กัน ไม่สามารถอยู่คนเดียวอย่างอิสระได้ สังคมจึงเกิดขึ้น

พระยาอนุมาน ก็ได้กล่าวไว้ว่า...

มนุษย์ย่อมต้องอยู่ร่วมกันทั้งหญิงและชายเป็นสังคม มีความต้องการขั้นพื้นฐานในชีวิตทุกคน ต้องการความปลอดภัยทั้งร่างกาย และจิต มีไมตรีจิตต่อกัน และมีความรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในสังคม

ในแนวความคิดของนักสังคมวิทยาทั่ว ๆไป ก็มีความคิดเห็น ว่า

สังคมและมนุษย์จะแยกจากกันไม่ได้ เพราะมนุษย์ตั้งแต่เกิดมาต้องพึ่งพากันและกัน อาศัยอยู่ร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม

 

ดังนั้นในช่วงโควิด19 ระบาดนี้ แม้สังคมมนุษย์จะหยุดอยู่บ้านเพื่องดการระบาดของโรค ทำกิจกรรมใดๆ ก็ต้องระวัง หากต้องมีการร่วมปฏิสัมพันธ์กัน ก็ต้องอยู่ในมาตรการป้องกันที่ดี เป็นไปตามนโยบายของสาธารณสุข

Zoom เป็นแอพพิเคชั่นที่ตอบโจทย์ชีวิตในช่วงนี้ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือให้ทุกชีวิตมีความสัมพันธ์ด้วยดี และปลอดภัยเพิ่มขึ้นเมื่อต้องมีความสัมพันธ์กันในสังคม

โครงการพระธรรมทายาท ในเส้นทางพระผู้ปราบมาร ได้ทำกิจวัตรทุกวัน ปฎิบัติธรรมทุกวัน เพื่อฝึกฝนตนเองไปตามคำสอนพระพุทธเจ้า ทางวัดพระธรรมกายจึงได้มีการนำ Zoom แอพพิเคชั่น มาใช้งานเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าร่วมอนุโมทนาบุญในการชมการถ่ายทอดกิจวัตรพระธรรมทายาทตลอดเดือนมกราคม 2564 มีมากกว่าสิบครั้ง เพื่อให้ญาติโยมได้เข้าร่วมอนุโมทนาบุญอย่างปลอดภัย และมีความสุข ทั้งกายและใจ ในการดำรงชีวิตประจำวันอยู่ที่บ้าน


มีโอวาทคุณครูไม่ใหญ่เคยพูดไว้ว่า....

สิ่งที่จะช่วยเกื้อหนุนใจให้มีความสุข ความสบาย 

และเกื้อหนุนในการปฎิบัติธรรมคือ

1. หัดเป็นคนมองโลกไปตามความเป็นจริง

ไม่ใช่ว่ามองในแง่ดี หรือในแง่ร้าย หัดป็นคนมองโลกไปตามความเป็นจริง ว่าความเป็นจริงของในโลกนี้ มันมีธรรมอยู่ 8 ประการ มีลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ มีคนสรรเสริญ-มีคนนินทา มีสุข-มีทุกข์ ธรรม 8 ประการนี้ จะวนเวียน อยู่ในชีวิตของเราตลอดเวลา ต้องไม่หวั่นไหวเวลามันมากระทบ เวลามันเกิดมา ทำใจให้เป็นกลาง ๆ ทำใจนิ่ง ใจเป็นกลาง ๆ นี้คือเราใช้สำหรับในชีวิตประจำวัน ของเรา

2. ทำใจให้เบิกบาน ให้แช่มชื่นอยู่เสมอ 

ใจต้องเป็นกุศล ใจต้องเบิกบาน ใจต้องสบาย ๆ ที่เป็นคนหงุดหงิด ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์ไจร้อน แง่งอน อะไรต่างๆ ทิ้งๆ ไปเถอะ อย่า!อนุรักษ์มันไว้ ทิ้งไปให้หมดเลย

..แล้วทำใจของเราให้ผ่องใส ให้เยือกเย็น
 

3. มองเพื่อนมนุษย์ มองทุก ๆ คน เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย 

จะเป็นใครก็ตาม จะมีความเสมอเหมือนกันอย่างนี้ทุกคนเลย เราต้องมีความปรารถนาดี ให้กับเพื่อนเราทุกๆ คน ที่อยู่ใกล้ แล้วสิ่งที่เราจะได้ คือ ใจเราสบาย ใจเราจะไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ฉุนเฉียวง่าย ไม่เจ้าอารมณ์ง่าย ใจมันจะสบาย
 

จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน มีความรู้สึก เหมือนมีมิตรสหายอยู่ห้อมล้อมตัวเราหมดเลย มันเกิดขึ้นมาเอง ทำบ่อยๆ แล้วจะเกิดขึ้นเอง ความสบายจะมีผลอย่างนี้ เวลาเราตรึกที่ใจ ความสุขก็จะเกิดขึ้น เพราะใจมันสบายเสียแล้ว มันง่าย เนื่องจากเราไม่ติดเรื่องกระจุกกระจิก เรื่องปลีกย่อย เราไม่ค่อยติด เราจะไปติดเรื่องหลักใหญ่ หลักใหญ่ หลักย่อยๆ ที่จะทำให้ใจขุ่นมัวให้มันหมด

4. มองโลกให้มันว่างเปล่า ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร 

ทำกิจการงานใด เราก็ทำไปเต็มที่ แต่ไม่ติดอะไร เฉยๆ.. แล้วจะช่วยให้การเข้าถึงง่าย ง่ายจริง ๆ

พอใจมันก็สบาย ใจสบาย เพราะเราฝึกไว้ตั้งแต่ก่อนนอนจนกระทั่งเข้านอน เอาสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน เป็นอุปกรณ์ในการฝึกหมดเลย แล้วใจก็สบาย ใจเราก็เบิกบาน เรากำลังแสวงหา การหยุด การนิ่ง การเฉย แต่มันไม่มา เพราะในชีวิตประจำวัน เราไม่ได้ฝึกฝนตัวเราอย่างนี้ ถ้าหากฝึกฝนตัวเราอย่างนี้ มันมาอย่างง่ายๆ 

หยุด นิ่ง เฉย..มาพร้อมกัน ความสบาย

สบายใจ ในชีวิตประจำวันทำอย่างนี้นะ ..

 


ขอเชิญทุกท่านร่วมชม ร่วมอนุโมทนาบุญกิจวัตรพระธรรมทายาท ในเส้นทางพระผู้ปราบมารปีที่ 9 ปี 2564ผ่าน ZOOM ตารางการเวลา และห้องแต่ละห้องที่ท่านต้องการร่วม สามารถเลือกเข้าร่วมอนุโมทนาบุญที่ลิงค์นี้ และกดเข้าลิงค์ตามห้องนั้นๆ ได้เลย 

dmc.tv/2564/rooms

สำหรับห้องญาติโยมใหม่ๆ ชมได้ที่
 
ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/1
dmc.tv/2564/1/1 [ Go URL ] 

ชื่อห้อง : สาธุชนทั่วไป/2
dmc.tv/2564/1/2 [ Go URL ]

ซึ่งตามตารางเวลาแต่ละวันออนไลน์
ท่านสามารถกดเข้าชมตามเวลาที่แจ้ง
👇ในข้อความภาพ

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูลและรูปภาพ



วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564

พุทธบริษัท : ทำไมต้องZoom กับการสวดมนต์แบบออนไลน์ข้ามปี 2564 และกิจวัตรพระธรรมทายาทช่วงธรรมยาตรา ปีที่9

สวัสดีปีใหม่ 2564 

: Zoom  New Normal

ส่งความสุข ความสดชื่น แด่ ...ผู้มีบุญทั่วโลก ทุกท่าน 
เริ่มต้นปีใหม่ 2564 ด้วยความสุข 
จากการสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ ด้วย Zoom
ขออำนวยพรปีใหม่ ให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง 
ปลอดภัยจากโรคภัยทั้งหลาย
มีความสุขทุกวันด้วยการสร้างความดี 
ชีวิตสดชื่น แจ่มใส ตลอดเวลา
สำเร็จ สมปรารถนา ในการทำงาน Work from home
 
 

กลุ่มผู้นับถือพระรัตนตรัยครั้งแรกของโลก

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปโปรดกลุ่มคฤหัสถ์ กลุ่มคฤหบดียส(อ่านว่า ยะสะ) นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีผู้นับถือพระรัตนตรัยครบทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ มียสกุลบุตร พ่อ แม่ และภรรยา หลังจากได้ฟังธรรม ได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์แล้ว  พระพุทธเจ้าทรงให้ยสกุลบุตรและเพื่อน 54 คน ได้รับบรรพชาอุปสมบทด้วยวิธี "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" 

หลักฐานคัมภีร์พระไตรปิฎกปรากฏไว้ว่า อุบาสก อุบสิกา ชุดแรก 

คือ "ครอบครัวคหบดียส" ขอเป็นผู้นับถือพระรัตนตรัยตลอดชีวิต

พระพุทธองค์ทรงให้การศึกษาและถ่ายทอดหลักธรรมแก่ฝ่ายคฤหัสถ์ 

โดยการเทศน์สอนในหัวข้อธรรม 

"อนุบุพพิกถาและอริยสัจสี่" (วิ.ม.(ไทย) 4/29/36-37)

เห็นได้ว่า การเทศน์ของพระพุทธเจ้าโปรดฝ่ายคฤหัสถ์ นั้น

จากบุคคลไม่มีความเข้าใจอะไรเลย

ในเรื่องการทำความดีทางพระพุทธศาสนา

ก็จะปูพื้นฐานในการทำความดี ให้ผู้ฟังเข้าใจไปตามลำดับ ๆ 

โดย ทรงเทศน์สอน "อนุบุพพิกถา" คือ เรื่องทาน เรื่องศีล เรื่องสวรรค์ เรื่องโทษของกาม และเรื่องอานิสงส์ของการออกจากกาม เมื่อผู้ฟังเข้าใจธรรมะ ตามลำดับแล้ว 

จนเกิดศรัทธา มีความพร้อมต่อการฟังธรรมะในลำดับต่อไป

คือ การเทศน์สอน "อริยสัจ 4" จนกระทั่งไปสู่ "มรรคมีองค์แปด" ซึ่งก็คือ บทสวดมนต์ "ธัมมจักกัปปวัตตสูตร" ที่พระปัญจวัคคีย์ ได้ฟังธรรมเทศนาจนบรรลุธรรม นั้นเอง เพื่อให้ผู้ฟังนำไปประพฤติปฏิบัติในการดำรงชีวิตประจำวัน จนกระทั่งได้บรรลุธรรมในขณะครองเรือน ก็จะมีวิถีชีวิตแบบ "อริยชน" เป็นคนดีของสังคมส่งผลให้ชุมชน สังคมนั้น ๆ มีความสงบสุข

แต่ว่า หากออกบวช และนำหลักธรรม มรรคมีองค์แปด 

หรือ บทสวดมนต์ "ธัมมจักกัปปวัตตสูตร"

ไปปฏิบัติ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ทบไปทวนมา

ก็จะบรรลุธรรมเป็น พระอริยสงฆ์

แต่หากว่าขณะเป็นคฤหัสถ์ ฟังธรรมไปตามลำดับแล้ว 

เมื่อได้ฟังธรรม "อนันตลักขณสูตร" บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ ก็จะต้องออกบวช

สรุปได้ว่า เมื่อได้ปฏิบัติธรรมตามคำสอนพระพุทธเจ้าแล้ว ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ก็มีสิทธิ์สามารถ "บรรลุธรรม"  ได้ทุกคน 

เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ก็จะเกิดปัญญา และ นำปัญญา นั้นมาพัฒนาตนเองเกิดความประพฤติที่ดีงาม

"ปัญญา" เป็นธรรมสูงสุด เป็นต้นเหตุแห่งการตรัสรู้ธรรม การจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในขั้นทาน ขั้นศีล ขั้นภาวนา ก็ต้องอาศัยปัญญา ทั้งนั้น

ดังคำพุทธพจน์ ที่ว่า

"คนจะข้ามโฆษะได้ด้วยศรัทธา จะข้ามห้วงมหรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท จะล่วงพ้นความทุกข์ได้ด้วยความเพียรและจะบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา"(ขุ.สุ.(ไทย)25/186/544)

ฉะนั้น เห็นได้ว่า การเห็นสมณะเป็นมงคลชีวิต พระพุทธเจ้าทรงมีเมตตายิ่งใหญ่ต่อทุกชีวิต ทำให้เกิดการบรรลุธรรมได้ทุกเพศวัย เมื่อได้ฟังธรรม ดังนั้น พระธรรมทายาทในธรรมยาตรา ปีที่ 9 นี้ ในทุกวันได้ร่วมกิจวัตร ฝึกตน สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ดำรงชีวิตตามคำสอนพระพุทธองค์ เพื่อเตรียมเป็นเนื้อนาบุญในการเดินธรรมยาตรา สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงได้ปรับกิจกรรมให้สาธุชนทุกท่านได้เข้าร่วมออนไลน์ Zoom ตามประกาศที่แจ้งให้ทราบแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด-19


ธรรมยาตรา : With Zoom

ช่วงนี้กระแสใจของคนไทย ร้อนรน ไม่เป็นสุข
มีทั้งวาดระแวงภัยรอบตัวในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
มีภาวะความเครียด มีใจไม่สบาย 
และตื่นตระหนก หวาดกลัวว่า โรคโควิด 19 
จะมีใครแพร่เชื้อมาให้ตนเองหรือไม่
 
อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป
แต่ก็อย่าประมาท การ์ดอย่าตก
เว้นระยะห่าง 
ที่สำคัญ ต้อง ”ล้างมือทุกครั้ง” เมื่อหยิบจับอะไร 
เพราะเราไม่รู้ว่า 
จะเผลอเอามือไปสัมผัสบริเวณใบหน้า ปาก 
ซึ่งอาจทำให้มือไปสัมผัสสิ่งของที่ติดเชื้อ
เป็นเหตุให้เชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย
 
ดังนั้น เพื่อให้สาธุชนได้ร่วมอนุโมทนาบุญ
ปลอดภัย มีความสุข ปฏิบัติตน
ให้สอดคล้องกับมาตราการป้องกันโควิด 19
 
จึงได้ประกาศให้สาธุชนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม ที่ Zoom
อยู่ที่บ้าน หรือ ที่พักอาศัย 
 



การเห็นสมณะเป็นมงคลชีวิต

ขอเชิญชวนสาธุชนทุกท่านทั่วโลก 

อยู่บ้าน หยุดเชื้อ หยุดใจ สั่งสมบุญใหญ่ ธรรมยาตราปีที่ 9

โดยการร่วมพิธีกรรมผ่าน App Zoom เวลา 17.00 น

ซึ่งในการถ่ายทอดกิจวัตรพระธรรมทายาท

จะมีการถ่ายภาพหมู่ด้วย Zoom 

ดังนั้นจึงขอความร่วมมือใส่ชุดขาวร่วมถ่ายภาพพร้อมกัน 

ตามข้อความภาพด้านล่าง

เป็นประวัติศาสตร์ชีวิตใหม่ ที่ร่วมบุญ และ

ถ่ายภาพพร้อมกันทั่วโลกในเวลาเดียวกัน ด้วย Zoom


 

กดชม เว็บไซด์ธรรมยาตรา 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ